วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

Review หนังสือ : [Sweet Novels] Revenge Affair



Review : [Sweet Novels] Revenge Affair


เรื่อง : Fuyuko Sano



ภาพ : Katsumi Asanami


ราคา : 280 บาท

(รูปหนังสือ ทางเว็บไม่ให้เผยแพร่ค่ะ)




เรื่องย่อ : คนที่เขานับถือ เกลียดชังเขา...เสียจน "อยากจะฆ่าให้ตาย"

13 ปีก่อน ความทรงจำที่เกือบถูกชายผู้นั้นฆ่า กับห้วงคำนึงแห่งความหลงใหลที่ปิดผนึกไว้

ผลักดันให้โคกิก้าวเดินไปบนเส้นทางของอาชีพทนายความ

และในเวลานั้นเองที่เขาได้รับข่าวว่าพี่ชายของเขาหายตัวไปพร้อมทิ้งหนี้สินเอาไว้

ยิ่งกว่านั้น ชายที่เทิดทูนพี่ชายของเขา แต่เกลียดเขาเข้ากระดูกดำอย่างเรย์อิจิยังปรากฎตัวขึ้นมาเสียอีก......

เรย์อิจิยื่นข้อเสนอให้แก่โคกิที่หวั่นไหวกับการได้พบกันอีกครั้งโดยไม่ทันตั้งตัวว่า

จะยอมรับภาระชดใช้หนี้สินทั้งหมด แลกกับการที่เขาต้องเป็นตัวแทนของพี่ชาย





......................................................................





ยังไม่เข็ดกับนิยายแปลภาษาญี่ปุ่นซักที ก็เพราะพล็อตแบบนี้แหละ และตัวใช้หนี้ มันช่างก๊าวจริงๆนะเออ..


ที่บอกว่าเข็ดนิยายแปลญี่ปุ่นไม่ใช่อะไรนะ เพราะสำหรับเรานิยายแปลญี่ปุ่นส่วนมาก(ที่เราเจอ)มักจะอ่อนพล็อตไปหน่อย ส่วนมากเน้นฉากอิอ๊างมากไปนิด เผลอๆอาจจะอ่านไม่รู้เรื่อง แหะๆ...



แต่เรื่องนี้..ฮึ่ม..ของเสี่ยงอีกซักรอบ เพราะอ่านตัวอย่างแปลในเว็บมาแล้ว พบว่ามันน่าติดตามากๆ..ภาษาที่ใช้ก็ลื่นไหลไม่ติดขัด ถือว่าเรื่องนี้แปลได้โอเคมากค่ะ สวยงามมาก ทำเอาเจ็บจี๊ดๆ เลยทีเดียว





ว่าด้วยเรื่องนี้ แค่อ่านชื่อย่อก็น่าจะรู้แล้วนะค่ะว่าเป็นแนวไหน ประเภทเมะทำร้ายจิตใจกับเคะทุกข์ระทม น้ำเน่าเช่นนี้มันช่างน่าสนใจนัก.. ชอบอ่านประเภททำร้ายจิตใจมาค่อนเล่มแล้วมาหวานท้ายๆ คือนิยายทั้งเรื่องอ่านเพื่อรอฉากเอาคืนเท่านั้นแหละ (ห้าๆ)






และนิยายเรื่องนี้ก็ทำให้ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ทั้งสำหรับคนชอบพล็อตน้ำเน่าทำร้ายจิตใจ และคนที่ชอบอ่านฉากอิอ๊าง..เรื่องนี้..ตรึมค่ะ ตรึม..






ถึงจะบอกว่านิยายน้ำเน่าประเภทลักพาตัว ใช้หนี้ ขัดดอก มีออกมามากมายก็เถอะ แต่นิยายน้ำเน่าน่ะ จะเขียนให้สนุกมันยากนะค่ะคุณ ต้องกะส่วนผสมดีๆ ไม่งั้นน้ำได้เน่าจริงๆแน่..





ส่วนเรื่องนี้ สัดส่วนถือว่าพอประมาณค่ะ เรียกว่าโอเคได้อยู่..คือประเภทอ่านไปได้เรื่อยๆ เจ็บไปได้เรื่อยๆ (ฮ่าๆ) สำหรับคนที่ชอบอะไรทรมารใจนี่ขอแนะนำ เพราะพระเอกนี่เรียกว่าได้ใจจริงๆ..






แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เรื่องนี้มันหวานปนขมนะค้า บางฉากน่ะ ทำร้ายจิตใจกันอะไรกันแท้ๆ แต่มันก็มีแอบๆหวานอยู่ดี (ฮ่าๆ)







แต่ขอตินิดหน่อยเรื่องการดำเนินเรื่อง นิยายเรื่องนี้ถือว่าเป็นประเภทน้ำเน่าทำร้ายจิตใจ ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นไปค่อนเรื่อง แต่ว่า เนื้อเรื่องจะเป็นประเภทอ่านไปได้เรื่อยๆ เจ็บไปได้เรื่อยๆ คือมันก็ดีนะค่ะ แต่มันไม่มีจุดพีค ขนาดตอนที่นายเอกโดนไล่ออกมาจากบ้านพระเอกตอนวันคริสมาสต์ ซึ่งน่าจะถือว่าเป็นจุดพีคของเรื่อง แต่เราก็รู้สึกว่ามันน้อยๆไปอยู่ เรื่องของเรื่องคืออยากให้เจ็บกว่านี้อีกนิดถ้าบรรยายฉากโดนไล่ละเอียดกว่านี้ละก็ รับรองต่อมน้ำตาเราแตกแน่นอนค่ะเพราะตอนนั้นมันน่าแค้นจริงๆ(ไม่ใช้คำว่าเคืองนะ เพราะเราอ่านแล้วแค้นอ่ะ มึงไล่กุไปแบบนี้เลย แฉด )






และอีกอย่างที่เราขัดใจ..เรียกว่าขัดใจมาตลอดก็ได้กับนิยายแปลญี่ปุ่น นั่นก็คือ...ทำไม๊..ทำไม...ไม่เข้าใจจริงๆว่านายเอกจะยอมอะไรง่ายนักหนา คือแบบ...จะว่าอินี่เป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้นก็ได้เอ๊า...แต่แทบทุกเรื่องที่อ่านมา คือพระเอกน่ะ มันทำร้ายจิตใจเอ็งมาตลอดทั้งเรื่องแท้ๆ แต่ทำไม๊..ทำไมสุดท้ายต้องกลับไปง้อพระเอกเล่า ปล่อยมันมาง้อบ้างเซ่..ให้มันเจ็บบ้าง..อ้ากกกกกกกกก(อัดอั้นตันใจ) เชื่อว่าคนที่อ่านเรื่องนี้มาคงรู้สึกแบบนี้บ้างไม่มากก็น้อย..คือแบบ...นายเอกแม่งจะยอมพระเอกง่ายไปม๊ายยยย เอ็งหายโกรธง่ายไปจริงจริ๊งงงงงงงง..






มาถึงเรื่องคาแรกเตอร์กันบ้างดีกว่า(เวิ่นเว้อมานานและ) สำหรับพระเอกเรื่องนี้ ริอิจิ(ในเล่มชื่อริอิจิจริงๆ แต่ทำไมรีวิวถึงใช้เรย์อิจิก็ไม่ทราบ) พี่ท่านเป็นศัลยแพทย์หัวใจที่มีอายุน้อยที่สุดประจำรพ.ดังอะไรก็ว่ากันไป..

คาแรกเตอร์นี้นี่แบบ..อืม..จะว่าไปมันยังดึงความเกลียด โกรธและหมั่นไส้ของคนอ่านมาไม่มากพอนะ เพราะบอกแล้วว่าเรื่องนี้มันหวานปนขมว้อยยย ไอ้อะไรที่จะขมๆก็มัหวานมาแทรก เลยไม่รู้สึกแค้นๆฮีสักเท่าไหร่.. แต่เรื่องหมั่นไส้นี่...เอ่อ..เยอะเป็นบางฉากค่ะ อย่างตอนแรกๆงี้ ฮีเชิ่ดหยิ่งได้สะบัดมาก จะว่าไปถ้าคนเขียนเขียนฉากพระเอกมันปล้ำนายเอกที่พยายามดิเนรนขึ้นบันไดไปถึงห้องเพื่อจะสั่งพระเอกได้ แล้วสุดท้ายก็มาถึง(?)กันตรงหน้าห้องน่ะ อิชั้นว่ามันคงจะได้อารมณ์ชังพระเอกอีกเท่าตัวเลยค่ะ แต่เพราะบรรยายมาแค่นิดเดียวเลยไม่ค่อยแค้นมันเท่าไหร่

ส่วนตอนเด็กไม่อยากจะพูดนะ ว่าไอ้หมอนี่มันโรคจิตชัดๆ แต่ให้อภัยได้เพราะหนึ่งยังเป็นเด็ก และสอง..มันมีเหตุผลในตัวของมัน ไม่ได้งี่เง่าไปซะหมด ทำไมโตขึ้นมาแล้วกินหญ้าเป็นอาหารเสริมก็ไม่รู้อร่อยเหรอ? (โดนมีดหมอจ้วง)

และพี่ท่าน..เอ่อ...คุณหมอค่ะคุณหมอ..เอ็งนี่มันเข้าข่ายหมอโรคจิตชัดๆ!! โตมาแล้ว”เยอะ”กว่าเดิมอีกเหวย คือไปอะเซเดเฮกับนายเอกในรพ.อิชั้นก็ไม่ว่านะ แต่..นี่แบบ...พี่ใช้อุปกรณ์โรงพยาบาลมาทำ #%^(*& ได้ยังง้ายยยยย (คลุ้มคลั่งไปแล้ว) คือ..อ่านแล้วรู้สึกว่า..อี๋...อะ มันไม่แรงนะ แต่มันชวนขนลุกกับความโรคจิตของอิพระเอกนี่จริงๆ..ลองๆมาคิดดูแล้วกลัวนายเอกพิการค่ะ เอาจริงๆนะ แบบใส่นั่นโน่นนี่ไปในร่างกายเค้า ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดซักอย่างล่ะก็เอ็ง....ถึงเป็นหมอเทพแค่ไหนใช่ว่าจะไม่เคยพลาดนะเฟ้ย



ส่วนนายเอก โคกิ...เฮ้อ...อยากจะร้องเฮ้อกับนายเอกจริงๆค่ะ ในฐานะที่เราเรียนกฎหมาย..รู้สึกแปลกๆกับคาแรกเตอร์ของนายเอกเล็กน้อย คือมันไม่ใช่อ่ะ..ไม่ใช่บุคลิกของคนที่เรียนกฎหมายมาเลย..แน่ล่ะว่ามนุษย์แบบนี้มันอาจจะมีและนายเอกยอมก็เพราะพระเอกขู่ด้วยส่วนหนึ่ง แต่อิชั้นว่ามันมีวิธีการมากมายที่จะทำให้หลุดจากวงโคจรของพระเอกในตอนแรกๆอ่ะ (สรุปว่าเอ็งสมยอมชิมิ)


แล้วยิ่งตอนหลังๆที่โดนพระเอกมันไล่ไป..คืออ่อนแอมากกกกอ่ะ...มากจนแลดูสิ้นคิดไปเลยล่ะ ว่าไปคือคาแรกเตอร์และนิสัยของนายเอกมัน”อ่อน”เกินไปสำหรับคนที่จบกฎหมายค่ะ รู้สึกแบบนั้นจริงๆ..เพราะพูดตามตรงนะคะ การที่คุณเรียนกฎหมายเหมือนคุณถูกปลุกสัญชาติญาณการสู้ชีวิตขึ้นมาเลยล่ะเอ๊า สู้เพื่อความยุติธรรม ทำอะไรต้องเสมอภาค แสวงหาความเท่าเทียม และที่สำคัญ ใครทำผิด คนนั้นต้องรับโทษไม่มียกเว้น สิ่งนี้อิชั้นตระหนักเสมอทุกครั้งในการเรียนกฏหมาย นายเอกดูโง่เกินความเป็นนักกฎหมายค่ะ บอกตามตรง คือเอ็งมีวิธีสารพัด แต่ไม่ทำจริงๆ..บอกว่าสมยอมไปยังง่ายกว่านะอ่ะ



และนิสัยอีกอย่างของนายเอกที่เราอยากจะเฮ้อ..ก็คือ..แม่พระ..นายเอกนี่มันแม่พระชัดๆ..ตั้งแต่แรกล่ะ คือไม่จำเป็นต้องมาอะไรกับเรื่องของพี่ชายก็ได้เฟ้ยยย (ว่าด้วยเรื่องพี่ชาย อิชั้นเซ็งมันมาก) แถมไม่จำเป็นต้องยอมพระเอกด้วย(ตอนแรกฮีก็ไม่ยอม แต่มาๆก็(สม)ยอม แล้วแบบว่า..โคกิมีความเชื่อมั่นในศักยภาพพระเอกแมร่งสูงเวอร์จริงๆ แทบจะบูชาเป็นเทวดาไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ขนาดพระเอกมันก็รู้สึกได้เหมือนกัน แบบว่าโคกิมีชีวิตครึ่งนึงไว้หลงพระเอกรึนี่...โอ้...(เอาหัวโขกเสาปูน)

คือมีความเชื่อมั่นก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะค่ะ แต่แบบว่า..ถ้าเกิดพระเอกทิ้งเอ็งจริงๆ โคกิก็จะกลายเป็นคนสะโหลสะเหลไม้เลื้อยแบบนี้ต่อไปเหรอ? พึ่งตัวเองไม่ได้เหรอ? ไม่สิ คือพอนายเอกถูกพระเอกไล่ออกมาจากบ้านกลับมาห้องก็นอนกินเหล้าทั้งวันทั้งคืน ทำเอาเสียการเสียงานไปหมด โอเคว่าหมอนี่ใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติจนมาเจอพระเอก แต่นี่ถ้าพระเอกมันไม่รีเทิร์น เอ็งก็จะเป็นแบบนี้ไปตลอดเลยเหรอ? จะเป็นคนอกหักจนตายรึไงฟ่ะ ..ความเชื่อมั่นและยึดติดในตัวพระเอกแบบฝังหัวโคตรๆของโคกิน่ะ ทำปัญหาให้ตัวเองจริงๆค่ะ..



แถมสุดท้าย...สุดท้ายมา...ก็ยัง.. ไปช่วยพระเอก..ไปตามง้อพระเอก. เรื่องง้อนี่พระเอกมันยังตัดใจไปแล้วนะค่ะ บอกว่าเรื่องที่ทำกับนายเอกมันเลยร้ายเกินกว่าจะรับไหว..แต่นายเอกก็ยังรัก.ยังไม่โกรธ...แถมยังตบท้ายด้วยประโยคที่อิชั้นคิดว่ามันคือประโยคเด็ดที่สรุปทุกอย่างในเรื่องนี้ได้จริงๆ..






“..แต่ไหนแต่ไรมา ชั้นก็คิดถึงแต่เรื่องของริอิจิจนสมองผิดปกติไปแล้วล่ะ..”





อืม....





..สมองผิดปกติจริงๆด้วยล่ะเธอว์...





และอีกคาแรกเตอร์นึงที่เราไม่พูดถึงก็คงไม่ได้..เพราะที่เด่นๆก็มีแค่สามล่ะ ..นั่นก็คือพี่นายเอก..อายาโตะ...





บอกสั้นๆว่าคาแรกเตอร์ตัวนี้ทำให้อิชั้นหมั่นไส้มากกกกก..มากกกกก จนถึงมากที่สุดค่ะ..






อาจจะเพราะไม่ชอบพวกคาแรกเตอร์ที่เป็นที่รักของทุกคนมากเกินไป..แบบว่าชีวิตดีเลิศ มีแต่คนรัก ทำอะไรก็สำเร็จทุกอย่าง..คือมันไม่ใช่อ่ะ..อย่างพฤติกรรมของพี่นายเอกนี่แม่งสร้างปัญหาโคตรๆ..คือเอ็งมันตัวอะไรเนี่ย.. แล้วสุดท้ายก็ไม่ได้รับผลอะไรที่ตัวเองทำไปเลย ทำไม่ถูกแล้วยังจะลอยหน้าลอยตา..เฮ้อ...ไม่ชอบจริงๆแหละค่ะไม่มี What goes around comes around ซะบ้างเลย







เริ่มจากที่สร้างหนี้สินแล้วหนีไปกะสาว..โอเค...ชั้นไม่ว่า..เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของเรื่อง..แต่การโผล่มาในวันคริสมาสต์ด้วยสีหน้า”ระรื่น”และ”ไม่รู้สึกผิด” เนี่ย..มันชวนอยากเอาฝ่าเท้าลูบหน้าจริงๆค่ะ อิชั้นอัศจรรย์ใจจริงๆที่นายเอกแม่งไม่ทำอะไรเลย คือแบบมันทนได้ไงว่ะ อายาโตะโผล่มาแถมยัง..เอ่อ...แบบว่าทำตัวอิหยังค่ะนี่..ฮียั่วด้านแบบไร้ยางอายอ่ะค่ะ คือได้ข่าวว่าเอ็งไปกะสาว แล้วมาบอกพระเอกว่าได้สองขั้ว? โอเคนั่นไม่ใช่ปัญหา

แต่มาพูดเรื่องแบบนี้กับริอิจิที่อยุ่กับน้องชาย...รู้สึกว่ามันไม่ใช่นะ คือคนญี่ปุ่นนี่ขึ้นชื่อเรื่องขี้เกรงใจ แถมยังเป็นพวกอ่านบรรยากาศซะส่วนใหญ่ กลัวถูกหาว่าเป็นพวก Ky (อ่านบรรยากาศไม่ออก อีกนัยหนึ่งคือไม่รู้กาลเทศะ)จะตาย แล้วนี่หมอนี่มันใช้ชีวิตในญี่ปุ่นได้อย่างสงบสุขแน่เหรอ? หรือเอ็งจะใช้หน้าตาหากินไปตลอด จะว่าไปนี่คนเขียนอาจจะเอามาสร้างสีสันก็ได้นะ แบบว่ามันต้องมีคนนึงในเรื่องน่ะ แต่ยังไงก็เซ็งจริงๆกับนิสัยแบบนี้..เฮ้อ...





แถมเหตุการณ์นี้พระเอกมันก็ยังทำตัวน่าฆ่ามากๆ คือพอคนที่ตัวเองต้องการมาก็ไล่นายเอกไปเฉย..ซึ่งโอเคว่าตอนหลังๆมามันก็เฉลยออกมาว่าไม่ได้มีอะไรมากมาย..แต่แบบ..แล้วไล่ไปทำไม..ไล่ไปเพื่อ?????? คือจะลงโทษจะเอาเรื่องพี่มันก็ทำไปสิค่ะ มาไล่โคกิออกไป ส่วนโคกิก็ แม่งนั่งตากหิมะอยู่หน้าบ้านเขา..โอ้ย...บอกตามตรงว่าเป็นเราจะโกรธมันแม่งทั้งชาติอะค่ะ โดนแบบนี้..อิชั้นถึงได้แปลกใจจริงๆที่นายเอกเขา..ศรีทนด้ายยยย..ขนาดนี้..





.........................................


สรุปคือบ่นๆเรื่องการทำตัวของคนในเรื่องเฉยๆ คือแบบพฤติกรรมนี้เราไม่ชอบไง..อ่านแล้วเคืองๆ โกรธๆ อ่านจบแล้วอึดอัดๆ ฮึดฮัดเพราะไม่พอใจ ไม่ใช่อึดอัดแบบ..ตื้อๆนะค่ะ..แต่อึดอัดแบบ..เฮ้ย...ได้ไง..อึดอัดด้วยความไม่พอใจจริงๆ..ไม่พอใจในพฤติกรรมของตัวละครอะแหละ..ทำเอาซะเราอิน..





ส่วนเรื่องรูปเล่ม..ถือว่าสวยค่ะ โอเค คำผิดมีไม่มาก การแปลก็ลื่นไหล ถึงแม้จะสะดุดไปบ้าง แต่อ่านแล้วก็อินจริงๆ (ไม่งั้นอิชั้นก็ไม่เวิ่นเว้อด่าพวกมันซะกระจุยขนาดนี้หรอก ห้าๆ) เรื่องนี้เราชอบการตกแต่งนะค่ะ ลายรูปดอกไม้ข้างในสวยดี..แต่ขอติปกนิดนึง.อกนายเอกทำไมมันนูนออกมาเยี่ยงนั้น..อกสามเหลี่ยมรึยังไง?



......................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น