วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

“The moments pass so quickly, But the memories last forever.”

“The moments pass so quickly, But the memories last forever.”




- - Anonymous - -
























แม้เวลาจะผ่านไปเร็วซักแค่ไหน แต่ความทรงจำคงอยู่ได้ชั่วนิรันดร์


ความทรงจำร้ายๆ หรือเรื่องราวที่ผ่านเข้ามามากมาย ก็จำได้เช่นเดียวกัน




คำถามที่ว่า ทำไมคนเราถึงจำเรื่องร้ายๆได้ชัดเจนกว่าเรื่องดีๆ.. ก็ยังมีคนสงกาอยู่จนถึงทุกวันนี้..





ทำไมน่ะหรือ?..คงเพราะความทรงจำร้ายๆมันจะสลักแน่น ติดอยู่ในหัวใจเราได้ดีกว่ากระมัง..


เพราะเป็นความทรงจำร้ายๆ จึงได้เจ็บปวด



เพราะเป็นความทรงจำร้ายๆ จึงได้จดจำ


เพราะเป็นความทรงจำร้ายๆ จึงได้ซึมซับเอาความเจ็บปวดมาใส่ในหัวใจได้อย่างง่ายดาย..


ช่างน่าสงสาร กับคนที่ต้องพบเจอสิ่งเหล่านี้..



แต่ที่น่าขำ คือไม่ว่าใคร ก็ไม่เคยจะไร้ความทรงจำอันเลวร้าย นี้แม้แต่คนเดียว


อาจเพราะมันเป็นความจริง และเป็นสิ่งที่ต้องเกิด และควรเกิด เป็นประจำของชีวิต เป็นประจำของทุกๆวัน..


ที่ต้องมีเรื่องราวเลวร้ายเข้ามาในชีวิต


แต่เพราะความเจ็บปวดจากเรื่องราวที่เลวร้ายนี้มิใช่หรือ ทำให้เราได้รู้ ว่าความสุขเป็นเช่นไร เพราะความทุกข์นี้ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้เรารู้ว่าวันเวลาที่มีความสุขนั้น แสนจะมีค่าและควรรักษามันไว้ให้อยู่กับเราได้เนิ่นนานที่สุด




" คนที่ไม่เคยทุกข์ ย่อมไม่รู้ว่าความสุขเป็นเช่นไร"


คำกล่าวนี้...เป็นจริง..



ทั้งที่ควรจะรักษาและโอบอุ้มมันไว้ ทว่าความสุขกลับหล่นหาย หลุดลอยไปอย่างรวดเร็ว พอๆกับความทุกข์ที่ถาโถมเข้ามา


แต่จะกลัวอะไรเล่า ในเมื่อเราก็ยังมีความทรงจำดีๆมีเรื่องดีๆรออยู่..



................................................






มีใครสักคนบอกฉันว่า " ชีวิตจะมีความสุขมากขึ้น ถ้าเราคิดว่าปัญหาเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราเจอเพียงชั่วคราว"





กับวันนี้..ที่ชั้นอึดอัด กับการกระทำบางอย่าง ของคนบางคน



แต่มันไม่จำเป็นหรอกน่ะ ที่จะมาพร่ำเพ้อหรือบอกกล่าวให้ใครรู้ถึงปัญหานั้นมากกว่านี้


...เธอบอกว่าอยู่กับฉันไม่ได้ แค่นั่นก็พอแล้ว



ไม่จำเป็นต้องสรรหาถ้อยคำสวยงาม อ่อนหวานหรือไพเราะเพราะพริ้งมาบอก

แต่บอกว่าจะไป ก็คือจะไป


แค่บอกว่าอยู่ไม่ได้ ฉันก็ไม่ลำบากอะไรนักหนา




อย่ามาสงสาร หรือใจดี อย่ามาห่วงใย กลัวฉันจะลำบากกับการตัดสินใจของเธอเลย


เพราะนั่นมันจะทำให้ฉันยิ่งโกรธและเกลียดเธอมากขึ้น











...เกลียดจนบางครั้งอยากจะให้เธอหายไปจากโลกนี้ซะ...









...แต่มันก็เป็นแค่ความคิด อยากตกใจไปล่ะ..




ฉันว่าหลายคนก็เคยเป็นกระมัง เวลาที่ทะเลากับใครหรือมีปัญหากับใครซักคน


เวลาที่เราเกลียด และรู้สึกโมโหจนทนไม้ได้ จนอยาให้เขาหายไปจากสายตา ให้เขาหายไปจากโลกนี้ซะ..


...ไม่เคยเป็นเหรอ..ถ้าไม่เคยฉันก็ขอโทษแล้วกัน ที่มาพูดจาอะไรแปลกๆให้ฟัง..


ก็ฉันแค่คิด แต่ไม่ได้อยากให้มันเป็นจริงเสียหน่อย..



เพราะอีกไม่นานหรอก ความรู้สึกนี้ก็จะจางหายและ...ฉันก็จะลืมไป ว่าเคยรู้สึกอะไรกับเธอ..



เพราะปัญหาที่ชั้นพบเจอ ก็เป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของช่วงชีวิตที่ชั้นเจอมันแค่ชั่วคราวนี่..





ไม่เห็นจะต้องมาครุ่นคิดจริงจังอะไรมากมายหรอกน่ะ..






......................................






แต่บางครั้งก็อดระทดระท้อใจไม่ได้ ว่ามนุษย์นี่เกิดมาเพื่อโกหกและทำร้ายกันและกันหรืออย่างไร...



บางครั้งชั้นก็นึกขำกับการกระทำของบางสิ่ง บางอย่าง บางคน




เมื่อวานพวกเขาโกรธ เกลียด ชิงกันมากมาย..


แต่มาวันนี้กลับกลายเป็นเพื่อนสนิทกันซะได้..


ทำไมไม่ซื่อสัตย์กับตนเองบ้างน่ะ..



บางทีการซื่อสัตย์กับตนเอง อาจำทำให้เสียอะไรบางอย่างไปกระมัง ถึงไม่ค่อยมีคนทำได้..



แต่การยอมโกหก เพื่อบางสิ่งเหล่านั้น ฉันกลัวจริงๆ ว่าสักวัน เราจะลืมเลือนตัวตนที่แท้จริงของกันไป



... หรือว่านี่..จะเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ ที่ควรจะชินชาต่อมัน..รวมทั้งความเจ็บปวดทั้งหลายแหล่..




ถ้าคนที่รับมันไม่ได้..ก็ไม่อาจยืนหยัดบนนี้ได้หรือ?..


คนที่เจ็บปวดทุรนทุรายกับเรื่องแบบนี้ แสดงว่าพวกเขาอ่อนแอหรือไร?



หรือคนที่ชาเฉยต่อความเจ็บปวดทั้งหลาย จะเป็นผู้ที่เเข็งแกร่ง..





แต่ตราบใดที่เรารู้สึกเจ็บปวดและเห็นใจผู้อื่น นั่นแสดงให้เห็นว่าเรายังเป็นมนุษย์น่ะ..



..............................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น